Relative Vigor Index คืออะไร ที่มา สูตรการคำนวณ การวิเคราะห์ใน MT4 และ Forex

Relative Vigor Index คืออะไร ที่มา สูตรการคำนวณ การวิเคราะห์ใน MT4 และ Forex
Relative Vigor Index คืออะไร ที่มา สูตรการคำนวณ การวิเคราะห์ใน MT4 และ Forex

Relative Vigor Index คืออะไร

RVI หรือ Relative Vigor Index RVIคือ ตัวชี้วัดทางเทคนิคที่ใช้ในการวิเคราะห์ตลาดและการซื้อขายทางการเงิน โดยส่วนใหญ่จะนำมาใช้ในการวัดความแข็งแกร่งของการเปลี่ยนแปลงราคาในช่วงระยะสั้น ตัวชี้วัดนี้มีจุดประสงค์เพื่อช่วยในการตรวจสอบแนวโน้มของตลาดและความเข้มข้นของการเปลี่ยนแปลงราคาในขณะที่มีการซื้อขายเกิดขึ้น ซึ่งมักถูกนำมาใช้ในระยะเวลาเฉพาะเช่นการวิเคราะห์ราคารายวันหรือรายสัปดาห์RVI ทำงานโดยเปรียบเทียบราคาเปิดกับราคาปิดของสินค้าหรือสินทรัพย์ในตลาดที่น่าสนใจ โดยทั่วไปแล้วในตลาดที่แข็งแรง ราคาปิดมักจะสูงกว่าราคาเปิด ในขณะที่ในตลาดที่อ่อนแอ ราคาปิดมักจะต่ำกว่าราคาเปิด

การคำนวณ RVI ทำโดยหารความแตกต่างระหว่างราคาปิดและราคาเปิด (ราคาปิด – ราคาเปิด) ด้วยความแตกต่างระหว่างราคาสูงสุดและราคาต่ำสุดของวันนั้น (ราคาสูงสุด – ราคาต่ำสุด) สูตรคำนวณนี้จะให้ผลลัพธ์เป็นค่า RVRVI สามารถใช้ในการสร้างสัญญาณซื้อขาย โดยหากค่า RVI เข้าไปในพื้นที่บวกเหนือเส้นศูนย์ อาจถือเป็นสัญญาณซื้อ ในขณะที่ถ้าค่า RVI ลดลงอยู่ใต้เส้นศูนย์ อาจถือเป็นสัญญาณขาย

ที่มาของ Relative Vigor Index

Relative Vigor Index (RVI) ถูกพัฒนาขึ้นโดย John Ehlers นักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญในด้านการวิเคราะห์ทางเทคนิคและการซื้อขายในตลาดการเงิน เนื่องจากความสนใจของเขาในการนำวิทยาศาสตร์สัญญาณดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในการวิเคราะห์ตลาด. เขาเป็นผู้เขียนหนังสือที่มีชื่อเสียงเกี่ยวกับการซื้อขายแบบคลื่นวิทยุและการนำวิทยาศาสตร์การควบคุมมาใช้ในการวิเคราะห์ตลาด หนังสือของเขารวมถึง “Rocket Science for Traders,” “Cybernetic Analysis for Stocks and Futures,” “MESA and Trading Market Cycles,” และ “Cycle Analytics for Traders” มีผลทำให้เขาเป็นหนึ่งในผู้ที่มีอิทธิพลในวงการการซื้อขายทางเทคนิค.

RVI ถูกออกแบบขึ้นเพื่อวัดความแข็งแกร่งของแนวโน้มราคาในช่วงระยะสั้น โดยเปรียบเทียบราคาปิดและราคาเปิดของสินค้าหรือสินทรัพย์ในตลาด ในสถานการณ์ทั่วไปที่ตลาดแข็งแกร่ง ราคาปิดมักสูงกว่าราคาเปิด ในขณะที่ในตลาดที่อ่อนแอ ราคาปิดมักต่ำกว่าราคาเปิดRVI สามารถใช้ในการสร้างสัญญาณการซื้อขาย โดยเมื่อค่า RVI ยกขึ้นเหนือเส้นศูนย์ มันสามารถถือเป็นสัญญาณการซื้อ และเมื่อค่า RVI ลดลงอยู่ใต้เส้นศูนย์ มันสามารถถือเป็นสัญญาณการขาย แต่การใช้ RVI ควรร่วมกับการวิเคราะห์และเครื่องมืออื่น ๆ เพื่อตัดสินใจการซื้อขายอย่างมีระบบและอย่างรอบคอบ

สูตรการคำนวณ Relative Vigor Index (RVI)

สูตรการคำนวณ Relative Vigor Index (RVI) เป็นอย่างง่ายและมีขั้นตอนดังนี้:

1.คำนวณความแตกต่างระหว่างราคาปิดและราคาเปิด (Price Difference – PD):ขั้นตอนแรกนี้เราจะต้องหาความแตกต่างระหว่างราคาปิดและราคาเปิดของสินค้าหรือสินทรัพย์ในวันที่เราต้องการคำนวณ RVI นั่นคือ PD ซึ่งคำนวณได้ด้วยสูตรต่อไปนี้:

PD = ราคาปิด – ราคาเปิด

สูตรนี้ PD คือค่าความแตกต่างระหว่างราคาปิดและราคาเปิดในวันที่เราสนใจ.

2.คำนวณความแตกต่างระหว่างราคาสูงสุดและราคาต่ำสุด (Price Range – PR):ขั้นตอนนี้เราจะต้องหาความแตกต่างระหว่างราคาสูงสุดและราคาต่ำสุดของสินค้าหรือสินทรัพย์ในวันที่เราสนใจ นั่นคือ PR ซึ่งคำนวณได้ด้วยสูตรต่อไปนี้:

PR = ราคาสูงสุด – ราคาต่ำสุด

สูตรนี้ PR คือค่าความแตกต่างระหว่างราคาสูงสุดและราคาต่ำสุดในวันที่เราสนใจ.

3.คำนวณค่า RVI:มีค่า PD และ PR ที่คำนวณได้จากขั้นตอนที่ 1 และ 2 เราสามารถคำนวณค่า RVI ตามสูตรต่อไปนี้:

RVI = (2 * PD) / PR

สูตรนี้ RVI คือค่า Relative Vigor Index ที่เราต้องการคำนวณ. เราจะนำค่า PD ที่คำนวณได้ในขั้นตอนแรก คูณด้วย 2 และหารด้วยค่า PR ที่คำนวณได้ในขั้นตอนที่ 2 เพื่อให้ได้ค่า RVI.

ค่า RVI ที่ได้จากสูตรข้างต้นนี้มักถูกนำมาใช้ในการวิเคราะห์และสร้างสัญญาณการซื้อขายในตลาดทางการเงิน. ค่า RVI ที่คำนวณออกมาจะอยู่ในช่วงระหว่าง -1 ถึง +1 โดยทั่วไป.

  • ถ้า RVI มากกว่า 0 และเข้าใกล้ +1, แสดงว่ามีแนวโน้มขาขึ้น (Bullish) และตลาดอาจจะกำลังเป็นแนวขาขึ้น.
  • ถ้า RVI น้อยกว่า 0 และเข้าใกล้ -1, แสดงว่ามีแนวโน้มขาลง (Bearish) และตลาดอาจจะกำลังเป็นแนวขาลง.

การวิเคราะห์ Relative Vigor Index (RVI) ใน MT4

การวิเคราะห์ Relative Vigor Index (RVI) ใน MetaTrader 4 (MT4) และตลาด Forex ทำได้โดยการใช้ตัวชี้วัด RVI ที่มีให้ใน MT4 และทำการตรวจสอบสัญญาณการซื้อขายที่เกิดขึ้นจาก RVI ดังนี้:

  1. เปิดกราฟหรือแผนภูมิราคาใน MT4:เริ่มต้นโดยการเปิด MetaTrader 4 และเลือกคู่สกุลเงินหรือสินทรัพย์ที่คุณต้องการทำการวิเคราะห์บนกราฟ. คุณสามารถทำได้โดยการคลิกขวาที่คู่สกุลเงินนั้นในรายการ “Market Watch” แล้วเลือก “Chart Window” เพื่อเปิดกราฟ.
  2. เพิ่มตัวชี้วัด RVI ลงในกราฟ:เมื่อคุณเปิดกราฟแล้ว ให้คลิกที่เครื่องมือตัวชี้วัด (Indicator) ที่มีรูปไอคอนหน้าสว่างที่มุมบนขวาของกราฟ. จากนั้นค้นหา “Relative Vigor Index (RVI)” และคลิกเพื่อเพิ่มตัวชี้วัดนี้ลงในกราฟ.
  3. ตั้งค่าพารามิเตอร์ของ RVI:เมื่อคุณเพิ่ม RVI ลงในกราฟแล้ว จะมีหน้าต่างเพื่อตั้งค่าพารามิเตอร์ของ RVI ปรากฏขึ้น. พารามิเตอร์ที่สำคัญที่ควรใส่คือระยะเวลา (Period) ซึ่งเป็นจำนวนวันที่ใช้ในการคำนวณ RVI. ค่าเริ่มต้นที่แนะนำคือ 14 ซึ่งใช้ค่านี้ในการคำนวณความแตกต่างระหว่างราคาปิดและราคาเปิด. คุณสามารถปรับค่านี้ตามความต้องการของคุณ.
  4. อ่านสัญญาณการซื้อขายจาก RVI:
    • สัญญาณการซื้อ: เมื่อค่า RVI ยกขึ้นเหนือเส้นศูนย์ มันสามารถถือว่าเป็นสัญญาณการซื้อ. นี่แสดงว่าตลาดอาจจะกำลังเป็นแนวขาขึ้น (Bullish). ควรพิจารณาการเปิดสัญญาณซื้อในขณะนี้.
    • สัญญาณการขาย: เมื่อค่า RVI ลดลงอยู่ใต้เส้นศูนย์ มันสามารถถือว่าเป็นสัญญาณการขาย. นี่แสดงว่าตลาดอาจจะกำลังเป็นแนวขาลง (Bearish). ควรพิจารณาการเปิดสัญญาณขายในขณะนี้.
  5. ความรับผิดชอบและการจัดการความเสี่ยง:ไม่ว่าคุณจะใช้ RVI หรือตัวชี้วัดใดในการตัดสินใจการซื้อขาย ควรมีความรับผิดชอบและการจัดการความเสี่ยงอย่างรอบคอบ. คุณควรใช้สต็อปลอส (Stop Loss) เพื่อระบุระดับที่คุณพร้อมรับความเสี่ยงและมีกลยุทธ์การจัดการการเงินที่เหมาะสม.

ข้อดีข้อเสียของ Relative Vigor Index

RVI Indicator เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์สำหรับนักเล่นตลาดที่ต้องการวิเคราะห์แรงซื้อและแรงขายในตลาดเพื่อตัดสินใจการซื้อขายอย่างมีประสิทธิภาพและครอบคลุมสถานการณ์ทั้งหมดในตลาดทางการเงิน. มีข้อดีและข้อเสียของ Relative Vigor Index (RVI) ดังนี้

ข้อดีของ Relative Vigor Index (RVI):

  1. วัดแรงซื้อและแรงขาย: RVI ช่วยในการวัดแรงซื้อและแรงขายในตลาดอย่างแม่นยำโดยการวิเคราะห์ความแตกต่างระหว่างราคาปิดและราคาเปิด นี่ช่วยให้คุณเข้าใจความเปลี่ยนแปลงในการตลาดและการเคลื่อนไหวของราคาได้อย่างมีประสิทธิภาพ.
  2. สัญญาณการซื้อขาย: RVI สามารถให้สัญญาณการซื้อขายที่มีประสิทธิภาพ โดยการตรวจสอบค่า RVI ว่ามีค่าสูงกว่า 50 หรือไม่ ถ้าค่า RVI มากกว่า 50 อาจแสดงถึงแรงซื้อที่แข็งแกร่งและเป็นสัญญาณในการซื้อขาย.
  3. ตรวจสอบความสมดุลของตลาด: RVI ช่วยในการตรวจสอบความสมดุลระหว่างแรงซื้อและแรงขายในตลาด นี่ช่วยให้คุณเข้าใจแนวโน้มและแรงขับเคลื่อนของตลาด.
  4. ใช้ร่วมกับเครื่องมืออื่น: RVI สามารถใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์อื่น ๆ เช่น เส้นเทรนด์, แบบจำลองราคาหรือระดับการสนับสนุนและความต้านทาน เพื่อทำการวิเคราะห์และตัดสินใจการซื้อขายที่เสถียรมากขึ้น.

ข้อเสียของ Relative Vigor Index (RVI):

  1. ความล่าช้าในการส่งสัญญาณ: RVI มีความล่าช้าในการส่งสัญญาณการซื้อขาย ซึ่งอาจทำให้คุณพลาดโอกาสที่ดีในการเข้าหรือออกจากตลาดในขณะที่ราคาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว. การล่าช้าในการส่งสัญญาณสามารถทำให้การซื้อขายไม่ได้ผลในบางครั้งหรือมีผลกำไรน้อยลง.
  2. ไม่เหมาะสำหรับตลาดแบบออกแบบใหม่: RVI อาจไม่เหมาะสำหรับตลาดที่มีลักษณะแบบออกแบบใหม่ที่มีความผันผวนและความแกว่งใหญ่ ในบางกรณี RVI อาจให้สัญญาณที่ไม่เพียงพอในการวิเคราะห์สภาพตลาดที่ซับซ้อน.
  3. ต้องใช้ร่วมกับเครื่องมืออื่น: RVI อย่างเดียวของมันไม่เพียงพอในการทำการวิเคราะห์ทางเทคนิค. คุณควรพิจารณาความเหมาะสมของ RVI ในสภาวะตลาดที่คุณกำลังศึกษาและใช้งาน และบวกเครื่องมืออื่น เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ครอบคลุมและการวิเคราะห์ที่ถูกต้อง.
  4. อาจไม่เหมาะกับทุกสภาวะตลาด: RVI อาจให้ผลลัพธ์ที่ไม่แม่นยำหรือไม่เหมาะสมกับทุกสภาวะตลาด คุณควรพิจารณาความเหมาะสมของ RVI ในสภาวะตลาดที่คุณกำลังศึกษาและใช้งาน.