Oversold คืออะไร สัญญาณการวิเคราะห์ Oversold indicator

Oversold คืออะไร สัญญาณการวิเคราะห์ Oversold indicator
Oversold คืออะไร สัญญาณการวิเคราะห์ Oversold indicator

Oversold คืออะไร

คำว่า “Oversold” ในทางการเงินและตลาดทุนหมายถึงสถานการณ์ที่ราคาของหลักทรัพย์หรือสินทรัพย์ใด ๆ ถูกขายลงมากเกินไปหรือถูกค้างค่าต่ำเกินจากมูลค่าหรือความคาดหวังในตลาด สถานการณ์ Oversold นี้อาจเกิดขึ้นเมื่อนักลงทุนหรือผู้ลงทุนขายหรือขายออกสินทรัพย์มากเกินไปในระยะเวลาที่สั้นหรือในสถานการณ์ที่มีความกดดันในตลาด สถานการณ์ การใช้ Oversold indicator เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการการวิเคราะห์ทางเทคนิคในการลงทุนในตลาดทุนและหุ้นที่เป็นประโยชน์ในการทำความเข้าใจสภาวะปัจจุบันของตลาด แต่ไม่ควรใช้เป็นข้อมูลเดียวในการตัดสินใจการลงทุนอย่างเดี่ยวขาด

Oversold จะบ่งบอกถึงความไม่สมดุลระหว่างขายและซื้อและอาจแสดงถึงโอกาสที่ราคาหรือมูลค่าของสินทรัพย์นั้นจะสูงขึ้นในอนาคต นักลงทุนบางคนอาจพิจารณาเริ่มซื้อหรือลงทุนในสินทรัพย์ที่อยู่ในสถานการณ์ Oversold เพื่อรับผลกำไรเมื่อราคาขึ้นสูงขึ้นในอนาคต แต่การตัดสินใจการลงทุนควรพิจารณาร่วมกับข้อมูลและการวิเคราะห์อื่น ๆ และไม่ควรพึงพาเพียงอย่างเดียวใน Oversold indicator เนื่องจากตลาดมีความซับซ้อนและสามารถเปลี่ยนแปลงได้อยู่เสมอ นักลงทุนสามารถใช้สัญญาณ Oversold เพื่อตัดสินใจในการเปิดตำแหน่งการซื้อ (Buy) ในตลาดทุนหรือหุ้นขณะที่ราคามีภาวะขายมากเกินไป โดยทั่วไปค่า Oversold ที่นิยมใช้สำหรับตัวชี้วัดแบบเทคนิคเช่น RSI (Relative Strength Index) คือ 20.

สัญญาณการวิเคราะห์ Oversold indicator

สัญญาณการวิเคราะห์ Oversold indicator เป็นสัญญาณทางเทคนิคที่ใช้ในการตีความราคาหรือข้อมูลตลาดทุนเพื่อบ่งชี้ว่าหลักทรัพย์หรือสินทรัพย์นั้นอาจมีราคาต่ำเกินไปและมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นในอนาคต การวิเคราะห์ Oversold indicator มักใช้ในการคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงของราคาหรือแนวโน้มทางราคาที่เกิดขึ้นหลังจากสถานการณ์ Oversold นี่คือบางตัวอย่างของ Oversold indicator และสัญญาณการวิเคราะห์ที่อาจเกิดขึ้น

  1. Relative Strength Index (RSI):RSI เป็นตัวชี้วัดทางเทคนิคที่ใช้ในการวิเคราะห์สถานการณ์การซื้อขายของหลักทรัพย์หรือสินทรัพย์ โดยการคำนวณค่า RSI จะใช้สูตรทางคณิตศาสตร์เพื่อหาความแรงและความอ่อนแอของราคาในระยะเวลาที่กำหนด โดยค่า RSI อยู่ในช่วง 0-100 โดยทั่วไปแล้วถ้าค่า RSI ต่ำกว่า 30 จะแสดงถึงสถานการณ์ Oversold หมายความว่าหลักทรัพย์หรือสินทรัพย์นั้นอาจมีราคาต่ำเกินไปและมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นในอนาคต.นักลงทุนบางคนอาจพิจารณาซื้อหรือเข้าสู่ตลาดเมื่อ RSI ต่ำกว่า 30 เพื่อรับผลกำไรเมื่อราคาขึ้นสูงขึ้นในอนาคต.
  2. Stochastic Oscillator: Stochastic Oscillator เป็นตัวชี้วัดทางเทคนิคอีกตัวที่ใช้ในการวิเคราะห์ Oversold และ Overbought ในตลาด.โดยค่า Stochastic Oscillator อยู่ในช่วง 0-100 และส่วนมากถ้าค่าเข้าใกล้ 0 มักถือว่าหลักทรัพย์หรือสินทรัพย์นั้นอยู่ในสถานการณ์ Oversold ซึ่งอาจแสดงถึงโอกาสที่ราคาของมันจะเพิ่มขึ้นในอนาคต Stochastic Oscillator มักมีสองเส้นหลักคือ %K และ %D ซึ่งถ้า %K ต่ำกว่า %D อาจแสดงถึงสถานการณ์ Oversold.
  3. Commodity Channel Index (CCI): CCI เป็นตัวชี้วัดทางเทคนิคที่ใช้ในการวิเคราะห์มุมมองทางราคาและความแปรปรวนของราคาในตลาด ค่า CCI มักอยู่ในช่วงบวกและลบ โดยทั่วไปถ้าค่า CCI ต่ำกว่า -100 มักถือว่าหลักทรัพย์หรือสินทรัพย์นั้นอยู่ในสถานการณ์ Oversold. CCI อาจช่วยในการตรวจสอบว่าราคาหรือสินทรัพย์นั้นอาจเป็นที่ราคาถูกแกนนำมากเกินไปและมีโอกาสที่จะพลิกตัวขึ้นในอนาคต.
  4. Money Flow Index (MFI):MFI เป็นตัวชี้วัดที่ใช้ในการวิเคราะห์การซื้อขายและบ่งบอกการแสดงความคิดเห็นของนักลงทุนเกี่ยวกับสินทรัพย์ในสถานการณ์ Oversold และ Overbought.ค่า MFI อยู่ในช่วง 0-100 โดยถ้าค่า MFI ต่ำกว่า 20 จะแสดงถึงสถานการณ์ Oversold.MFI ดูที่ปริมาณการซื้อขายและการเสี่ยงเพื่อตรวจสอบว่านักลงทุนมีแนวโน้มที่จะซื้อหรือขาย.
  5. Bollinger Bands:Bollinger Bands คือเครื่องมือทางเทคนิคที่ใช้เพื่อวัดความผันผวนของราคาหลักทรัพย์.ประกอบด้วยแถบบอลลิงเกอร์สามแถบ ได้แก่แถบบอลลิงเกอร์กลาง (Middle Band) แถบบอลลิงเกอร์บน (Upper Band) และแถบบอลลิงเกอร์ล่าง (Lower Band) ราคาหลักทรัพย์ที่อยู่ในแถบบอลลิงเกอร์ล่างอาจถูกพิจารณาว่าอยู่ในสถานการณ์ Oversold และอาจมีโอกาสที่ราคาจะเพิ่มขึ้น.

การดู Oversold จาก Indicator

การดู Oversold จาก Indicator คือกระบวนการใช้ตัวชี้วัดทางเทคนิคเพื่อตรวจสอบว่าราคาหรือสินทรัพย์นั้นอยู่ในสถานการณ์ Oversold หรือไม่ ซึ่งสามารถทำได้โดยดูค่าของ Indicator ที่ใช้ในการวิเคราะห์เทคนิค ตัวชี้วัดแต่ละตัวมีวิธีการใช้งานและการอ่านที่แตกต่างกันไป ต่อไปนี้คือขั้นตอนทั่วไปในการดู Oversold จาก Indicator:

  1. เลือกตัวชี้วัด: เริ่มต้นด้วยการเลือกตัวชี้วัดทางเทคนิคที่คุณต้องการใช้ในการตรวจสอบ Oversold ตัวชี้วัดที่นิยมใช้ร่วมกับ Oversold เช่น RSI, Stochastic Oscillator, MFI และอื่น ๆ
  2. อ่านค่า Indicator: ดูค่า Indicator ที่คำนวณจากตัวชี้วัดทางเทคนิคในแต่ละวันหรือช่วงเวลา เช่น 14-วัน RSI หรือ 10-วัน Stochastic Oscillator ค่า Indicator จะปรากฏในกราฟหรือแผนภาพด้วยค่าตั้งแต่ 0 ถึง 100 หรือค่าเท่ากับช่วงราคาหรือความผันผวนของราคา
  3. จับค่า Oversold: สังเกตค่า Indicator และตรวจสอบว่าค่านั้นอยู่ในช่วง Oversold ตามการกำหนดของ Indicator ที่คุณใช้ โดยทั่วไปถ้าค่า Indicator ต่ำกว่าหรือเข้าใกล้ค่าต่ำสุดที่ถูกกำหนดให้เป็น Oversold (เช่น RSI ต่ำกว่า 30) และ Indicator แสดงการแกว่งขึ้นมาจากด้านล่างแสดงถึงการ Oversold แล้ว
  4. พิจารณาสถานการณ์อื่น ๆ: การดู Oversold ควรพิจารณาร่วมกับข้อมูลและปัจจัยอื่น ๆ ในตลาด เช่น กราฟราคา, แรงขาย, แนวโน้มทางราคา, ข่าวสารทางเศรษฐกิจ และเหตุการณ์ที่อาจมีผลต่อการเคลื่อนไหวของตลาด
  5. ตัดสินใจการลงทุน: หลังจากที่คุณพิจารณา Oversold indicator และข้อมูลอื่น ๆ คุณสามารถตัดสินใจว่าควรทำการเทรดหรือไม่ การใช้ Oversold indicator เพื่อตัดสินใจการลงทุนควรเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการการวิเคราะห์และตัดสินใจการลงทุนที่รอบคอบและมีความระบบมากยิ่งขึ้นในตลาดทุนหรือหุ้นที่คุณกำลังเข้าร่วม.

ยกตัวอย่างการดู Oversold

เรามาดูตัวอย่างการดู Oversold โดยใช้ตัวชี้วัด RSI (Relative Strength Index) ซึ่งเป็นตัวชี้วัดทางเทคนิคที่นิยมใช้ในการตรวจสอบสถานการณ์ Oversold ในตลาดหุ้น โดยค่า RSI ที่ต่ำกว่า 30 มักถือว่าหุ้นหรือสินทรัพย์นั้นอยู่ในสถานการณ์ Oversold:

  1. เลือกหุ้นหรือสินทรัพย์ที่สนใจ: เริ่มต้นด้วยการเลือกหุ้นหรือสินทรัพย์ที่คุณสนใจในการวิเคราะห์ Oversold.
  2. ดูกราฟราคา: ดูกราฟราคาของหุ้นหรือสินทรัพย์นั้นในช่วงเวลาที่คุณสนใจ อาจเป็นกราฟราคาวัน 1 วันหรือกราฟราคาสัปดาห์ 1 วัน เพื่อตรวจสอบแนวโน้มของราคา.
  3. คำนวณค่า RSI: ใช้โปรแกรมหรือโปรแกรมกราฟราคาที่มี RSI indicator ในการคำนวณค่า RSI สำหรับหุ้นหรือสินทรัพย์นั้นในช่วงเวลาที่คุณเลือก.
  4. ตรวจสอบค่า RSI: เมื่อคำนวณเสร็จสิ้น ตรวจสอบค่า RSI ที่ได้ ถ้าค่า RSI ต่ำกว่า 30 และมีแนวโน้มที่ลดลง อาจเป็นสัญญาณ Oversold.
  5. พิจารณาข้อมูลอื่น: ไม่ควรพึงพาเพียงค่า RSI เท่านั้นในการตัดสินใจ ควรพิจารณาข้อมูลอื่น ๆ เช่น แรงขาย (volume) และข่าวสารที่อาจมีผลต่อราคาหรือสภาวะตลาด.
  6. ตัดสินใจการลงทุน: หลังจากการดู Oversold และพิจารณาข้อมูลอื่น ๆ คุณสามารถตัดสินใจว่าควรทำการซื้อหรือไม่ การตัดสินใจควรเป็นอย่างรอบคอบและมีการวิเคราะห์อื่น ๆ เพิ่มเติมเพื่อให้การตัดสินใจเป็นมาตรฐานและมีความรู้สึกมั่นใจมากยิ่งขึ้นในการลงทุน.

การดู Oversold ใน MetaTrader 4 (MT4) สามารถทำได้โดยใช้ตัวชี้วัด RSI (Relative Strength Index) ซึ่งมีให้ใน MT4 ตามค่าดิบ ตัวอย่างนี้จะแสดงวิธีการใช้ RSI เพื่อตรวจสอบ Oversold ใน MT4:

  1. เปิดกราฟ: เปิด MT4 และเลือกหุ้นหรือสินทรัพย์ที่คุณสนใจ แล้วลากและวางหน้าต่างกราฟของสินทรัพย์นั้นลงในหน้าต่างเทรดของคุณ.
  2. เพิ่ม RSI Indicator: ในกราฟราคาของสินทรัพย์นั้น คลิกขวาที่หน้าต่างกราฟและเลือก “Insert” > “Indicators” > “Oscillators” > “Relative Strength Index (RSI)”.
  3. กำหนดค่า RSI: หลังจากเพิ่ม RSI Indicator เข้าไปในกราฟ จะปรากฏหน้าต่าง “Properties” ให้คุณกำหนดค่า RSI ตามที่ต้องการ โดยค่า RSI ที่ต่ำกว่า 30 มักถือว่า Oversold และค่า RSI ที่สูงกว่า 70 มักถือว่า Overbought. คุณสามารถปรับค่าเหล่านี้ตามความต้องการของคุณ.
  4. ดู Indicator บนกราฟ: เมื่อกำหนดค่า RSI เสร็จสิ้น ตัวชี้วัด RSI จะปรากฏบนกราฟของสินทรัพย์นั้น ๆ ในระยะเวลาที่คุณเลือก.
  5. ตรวจสอบ Oversold: ตรวจสอบค่า RSI บนกราฟ หากค่า RSI ต่ำกว่า 30 และมีแนวโน้มการเพิ่มขึ้นหรือแสดงสัญญาณการวิเคราะห์ Oversold ในสินทรัพย์นั้น ๆ อาจเป็นโอกาสที่ต้องการพิจารณาในการทำการซื้อหรือตัดสินใจการเทรด.

Author

  • thaiforexsupport

    ประสบการณ์การเทรด Forex ตั้งแต่ปี 2013 เข้าตลาด Forex เลยสร้างเว็บมาเพื่อแบ่งปันข้อมูลการเทรด และเทคนิค

    View all posts