ฟอเร็กซ์

MQL4 คืออะไร ประวัติความเป็นมา และตัวอย่างการเขียน Code ภาษา และไวยากรณ์ Code เบื้องต้น

MQL4 คืออะไร

MQL4 (MetaQuotes Language 4) คือภาษาโปรแกรมมิ่งที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อพัฒนาและปรับแต่งโปรแกรมช่วยเหลือการซื้อขาย, สคริปต์, และตัวบ่งชี้ทางเทคนิคสำหรับแพลตฟอร์ม MetaTrader 4 (MT4). สำหรับผู้ที่ต้องการต่อยอดการซื้อขายในตลาด Forex และตลาด CFDs, MQL4 สามารถช่วยในการแก้ปัญหาการซื้อขายที่ซับซ้อนได้

MQL4 คืออะไร
MQL4 คืออะไร

MQL4 สำคัญอย่างไร

MQL4 (MetaQuotes Language 4) มีความสำคัญในด้านต่อไปนี้:

  1. อัตโนมัติการซื้อขาย: สำหรับเทรดเดอร์ที่มีกลยุทธ์การซื้อขายที่ชัดเจนและต้องการให้ระบบเปิด/ปิดโพซิชั่นแบบอัตโนมัติ, MQL4 ช่วยให้สามารถสร้างระบบการซื้อขายอัตโนมัติ (Expert Advisor หรือ EA) ได้.
  2. การปรับแต่งแพลตฟอร์มการซื้อขาย: ด้วย MQL4, เทรดเดอร์สามารถสร้าง Custom Indicators หรือ Scripts ที่เฉพาะเจาะจงตามความต้องการของตนเอง, ช่วยให้เขาได้มองเห็นภาพรวมของตลาดอย่างละเอียดยิ่งขึ้น.
  3. การทดสอบกลยุทธ์: ด้วยฟังก์ชัน Strategy Tester ใน MetaTrader 4, เทรดเดอร์สามารถทดสอบและประเมินประสิทธิภาพของ EA ของตนเองบนข้อมูลราคาในอดีต เพื่อปรับปรุงและตรวจสอบกลยุทธ์การซื้อขายของตนเอง.

การใช้งาน MQL4

  1. การสร้าง Expert Advisor (EA): EA คือโปรแกรมที่เขียนด้วย MQL4 สำหรับการทำงานบน MetaTrader 4. มันทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการซื้อขายแบบอัตโนมัติตามกลยุทธ์ที่กำหนดไว้.
  2. การสร้าง Custom Indicators: เทรดเดอร์สามารถสร้างตัวชี้วัดทางเทคนิคเฉพาะเจาะจงตามความต้องการของตนเอง เพื่อช่วยในการตัดสินใจการซื้อขาย.
  3. การใช้งาน Scripts: Scripts ใน MQL4 สามารถเขียนเพื่อดำเนินการที่เฉพาะเจาะจง เช่น การปิดทุกโพซิชั่นที่เปิดอยู่, หรือการเปลี่ยน Stop Loss สำหรับทุกโพซิชั่น.
  4. การทดสอบ EA ด้วย Strategy Tester: หลังจากสร้าง EA แล้ว, ควรทดสอบกลยุทธ์ด้วยข้อมูลราคาในอดีต เพื่อเช็คประสิทธิภาพและปรับปรุงกลยุทธ์ต่อไป.
  5. การติดตามและวิเคราะห์ผลการซื้อขาย: เมื่อ EA กำลังทำงาน, เทรดเดอร์ควรติดตามผลการซื้อขายและประเมินประสิทธิภาพของ EA เพื่อวิเคราะห์และปรับปรุงกลยุทธ์.

เมื่อเทรดเดอร์มีความเข้าใจและความสามารถในการใช้ MQL4, มันจะเปิดโอกาสให้กับเขาสร้างและปรับแต่งเครื่องมือการซื้อขายของตนเองให้เหมาะสมกับสไตล์และกลยุทธ์การซื้อขายของตนเองมากยิ่งขึ้น

ข้อดี

  1. ความเฉพาะเจาะจงสำหรับการซื้อขาย: MQL4 ถูกออกแบบมาเฉพาะเพื่อแพลตฟอร์ม MT4 ทำให้เหมาะสมและมีประสิทธิภาพสำหรับการพัฒนาเครื่องมือการซื้อขาย.
  2. เรียนรู้ได้ง่าย: สำหรับผู้ที่มีพื้นฐานในการเขียนโปรแกรม, MQL4 จะไม่ยากต่อการเรียนรู้ เนื่องจากมีโครงสร้างที่คล้ายกับภาษา C.
  3. คู่มือและเอกสารช่วยเหลือ: มีคู่มือและเอกสารที่ครอบคลุม ทำให้ผู้พัฒนาสามารถหาข้อมูลและรับความช่วยเหลือได้ง่าย.
  4. ชุมชนใหญ่: เนื่องจาก MT4 เป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย, ดังนั้นชุมชนของ MQL4 ก็ใหญ่ขึ้น ทำให้ผู้พัฒนาสามารถแบ่งปัน สอบถาม และรับความช่วยเหลือได้ง่ายขึ้น.

ข้อเสีย

  1. เฉพาะเจาะจงเกินไป: หากคุณต้องการพัฒนาสำหรับแพลตฟอร์มอื่นนอกเหนือจาก MT4, MQL4 อาจจะไม่ใช่ภาษาที่เหมาะสม.
  2. ข้อจำกัดในฟังก์ชันและความสามารถ: MQL4 อาจจะไม่มีฟังก์ชันทางเทคนิคหรือการซื้อขายแบบบางประเภทที่ผู้พัฒนาต้องการ.
  3. การปรับปรุงและการปรับเปลี่ยน: ในรุ่นใหม่ของ MetaTrader, ได้แก่ MT5, มีการเปลี่ยนแปลงในภาษาโปรแกรมมิ่งเป็น MQL5 ซึ่งทำให้บาง EA และ indicators ที่เขียนด้วย MQL4 ไม่สามารถใช้งานใน MT5 ได้โดยตรง.
  4. การรองรับอาจจะลดลงในอนาคต: เนื่องจากความนิยมของ MT5 ที่เพิ่มขึ้น, การรองรับและการพัฒนา MQL4 อาจจะลดลงในอนาคต.

ประวัติความเป็นมาของ MQL4

MQL4 (MetaQuotes Language 4) คือภาษาโปรแกรมมิ่งที่พัฒนาขึ้นสำหรับการใช้งานบนแพลตฟอร์ม MetaTrader 4. สิ่งนี้เกิดจากการที่ภาวะตลาดทางการเงินและซื้อขายเงินตราต่างประเทศ (Forex) ในยุคนั้นได้เริ่มขยายตัวและมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ทำให้การเทรดด้วยมือถือกลายเป็นไม่เพียงพอและเทรดเดอร์เริ่มมองหาวิธีในการซื้อขายที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น.

บริษัท MetaQuotes Software ได้ตระหนักถึงความต้องการนั้นและสร้าง MQL4 ขึ้นเพื่อเติมเต็มความต้องการนั้น โดยออกแบบมาให้มีความยืดหยุ่น, สามารถปรับแต่งได้, และเฉพาะเจาะจงสำหรับการซื้อขายแบบอัตโนมัติบน MetaTrader 4.

ความท้าทายในการซื้อขายทำให้มีความต้องการในการวิเคราะห์ข้อมูลตลาดและตัดสินใจในการซื้อขายอย่างรวดเร็วและแม่นยำ ดังนั้น, MQL4 ได้รับการออกแบบให้มีความสามารถในการประมวลผลและตัดสินใจตามกลยุทธ์ที่เทรดเดอร์กำหนดไว้ ซึ่งเป็นการแปลงกลยุทธ์การซื้อขายเป็นรหัสคำสั่งที่เครื่องคอมพิวเตอร์สามารถทำงานได้.

ระหว่างเวลานั้น, สังคมของเทรดเดอร์และนักพัฒนาซอฟต์แวร์ได้เริ่มมีการแบ่งปันและขาย Expert Advisors (EAs) และตัวชี้วัดที่พัฒนาด้วย MQL4 ทำให้เกิดการขยายตัวของสังคมนี้ และสร้างโอกาสในการแลกเปลี่ยนและการสร้างสรรค์อย่างต่อเนื่อง.

ในสุดท้าย, MQL4 ไม่เพียงแต่เป็นเครื่องมือสำหรับการปรับแต่งและพัฒนาการซื้อขาย แต่ยังช่วยส่งเสริมความร่วมมือและการแบ่งปันในระหว่างเทรดเดอร์และนักพัฒนา ทำให้วงการ Forex และ CFDs ได้รับประโยชน์อย่างมากจากนั้น

ตัวอย่างการเขียน Code ภาษา MQL4 และไวยากรณ์ Code เบื้องต้น

  1. คำสั่ง Print: ใช้สำหรับแสดงข้อความบน Terminal, ทำให้เราสามารถดูผลลัพธ์หรือข้อความต่างๆ ที่ต้องการเทสต์ได้ง่าย
    • Print(“สวัสดี, MetaTrader 4!”);
  2. การสร้างตัวแปร: MQL4 มีการประกาศตัวแปรที่คล้ายคลึงกับภาษาโปรแกรมมิ่งอื่นๆ วิธีการประกาศตัวแปรก็ดูง่ายดาย ดังนี้
    • double myVariable = 100.50; // ตัวแปรทศนิยม
      int myInt = 100; // ตัวแปรจำนวนเต็ม
  3. ลูป for: ลูป (Loop) ในการทำซ้ำเป็นส่วนสำคัญของการโปรแกรม, MQL4 ก็มีลูปในรูปแบบที่คุณคุ้นเคย
    • for(int i=0; i<10; i++)
      {
      Print(“ครั้งที่ “, i);
      }
  4. ฟังก์ชัน: มีฟังก์ชันที่มาพร้อมกับ MQL4 ให้เราใช้งาน เช่น ฟังก์ชันสำหรับเปิด-ปิดการซื้อขาย, การคำนวณตัวชี้วัดทางเทคนิค, การกำหนดสัญญาณเตือน, และอื่นๆ ตัวอย่างเช่น
    • double maValue = iMA(NULL, 0, 14, 0, MODE_SMA, PRICE_CLOSE, 0);

ตัวอย่างการเขียน Expert Advisors (EA) ด้วย MQL4

ตัวอย่างข้างล่างนี้เป็น EA ง่าย ๆ ที่ตรวจสอบว่าเงื่อนไขของ Moving Average (SMA) ครบถ้วนหรือไม่ เพื่อทำการเปิดคำสั่งซื้อหรือขาย

//+——————————————————————+
//|                                         SimpleMA.mq4             |
//|                        Generated by Bing’s EA Generator          |
//|                                                                  |
//+——————————————————————+
#property strict
// ตั้งค่าแบบกำหนดเอง
input int FastMAPeriod = 5;      // ระยะเวลาของ Fast Moving Average
input int SlowMAPeriod = 20;     // ระยะเวลาของ Slow Moving Average
input double LotSize = 0.1;     // ขนาด Lot
int start()
{
   double FastMA = iMA(Symbol(), 0, FastMAPeriod, 0, MODE_SMA, PRICE_CLOSE, 0);
   double SlowMA = iMA(Symbol(), 0, SlowMAPeriod, 0, MODE_SMA, PRICE_CLOSE, 0);
   if (FastMA > SlowMA && OrdersTotal() == 0)
   {
       OrderSend(Symbol(), OP_BUY, LotSize, Ask, 3, 0, 0, “Buy Order”, 0, 0, Green);
   }
   else if (FastMA < SlowMA && OrdersTotal() == 0)
   {
       OrderSend(Symbol(), OP_SELL, LotSize, Bid, 3, 0, 0, “Sell Order”, 0, 0, Red);
   }
   return(0);
}
//+——————————————————————+

ตัวอย่างการเขียน Indicators ด้วย MQL4

ตัวอย่างที่นำมาให้ดูเป็น Indicator ง่าย ๆ ของ Moving Average (SMA):

//+——————————————————————+
//|                                      SimpleMovingAverage.mq4     |
//|                        Generated by Bing’s EA Generator          |
//|                                                                  |
//+——————————————————————+
#property strict
#property indicator_separate_window
#property indicator_buffers 1
#property indicator_color1 Blue
// ตั้งค่าแบบกำหนดเอง
input int MAPeriod = 14;        // ระยะเวลาของ Moving Average
double MAArray[];
int OnInit()
{
   IndicatorShortName(“Simple Moving Average (Period: ” + MAPeriod + “)”);
   IndicatorBuffer(0, MAArray);
   SetIndexLabel(0, “SMA”);
   SetIndexStyle(0, DRAW_LINE);
   return(INIT_SUCCEEDED);
}
int start()
{
   int counted_bars = IndicatorCounted();
   int limit = Bars – counted_bars;
   for(int i=0; i<limit; i++)
   {
      MAArray[i] = iMA(Symbol(), 0, MAPeriod, 0, MODE_SMA, PRICE_CLOSE, i);
   }
   return(0);
}
//+——————————————————————+

คำอธิบาย:

  • #property indicator_separate_window: คำสั่งนี้แสดงว่า Indicator นี้จะแสดงในหน้าต่างแยกต่างหากจากกราฟราคาหลัก.
  • #property indicator_buffers 1: ตั้งค่าให้มี buffer 1 ตัวสำหรับ Indicator นี้.
  • #property indicator_color1 Blue: ตั้งค่าสีของเส้น Indicator ให้เป็นสีฟ้า.
  • IndicatorBuffer(0, MAArray): กำหนด buffer ของ Indicator ให้มีชื่อว่า MAArray.
  • SetIndexLabel(0, "SMA"): ตั้งชื่อ label สำหรับเส้น Indicator.
  • SetIndexStyle(0, DRAW_LINE): ตั้งค่ารูปแบบของเส้น Indicator ให้เป็นเส้นตรง.
  • iMA(...): เป็นฟังก์ชันเพื่อคำนวณค่าของ Moving Average ใน MetaTrader 4.

สิ่งที่ Indicator นี้ทำคือการวาดเส้น Moving Average ในหน้าต่างแยกต่างหากจากกราฟราคาหลัก โดยใช้ค่าที่กำหนดจาก MAPeriod เป็นระยะเวลาของ Moving Average.