USDJPY คืออะไร ข้อมูลพื้นฐานอย่างละเอียด ข่าวเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้อง

USDJPY คืออะไร

USDJPY คืออะไร ข่าวเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้อง USDJPY
USDJPY คืออะไร ข่าวเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้อง USDJPY

คู่สกุลเงิน USDJPY คือสัญญาซื้อขายหน่วยเงินระหว่างดอลลาร์สหรัฐ (USD) และเยนญี่ปุ่น (JPY) ในตลาดอัตราแลกเปลี่ยน (Forex) หรือตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ นี่เป็นการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่ได้รับความนิยมและถูกซื้อขายอย่างกว้างขวางในตลาดการเงินโลก สัญญานี้ใช้สัญญาสำหรับการแลกเปลี่ยนระหว่างดอลลาร์สหรัฐและเยนญี่ปุ่น โดย USD แทนดอลลาร์สหรัฐและ JPY แทนเยนญี่ปุ่นในสัญญานี้ ราคา USDJPY มักเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาตลาดเปิด 24 ชั่วโมงตลอด 5 วันต่อสัปดาห์ และนักลงทุนและเทรดเดอร์จะใช้การวิเคราะห์เทคนิคและพื้นฐานเพื่อตัดสินใจซื้อหรือขาย USDJPY ในเวลาที่เหมาะสมเพื่อทำกำไรหรือป้องกันความเสี่ยงในตลาด.

การซื้อขาย USDJPY คือการซื้อหน่วยเงิน USD และขายหน่วยเงิน JPY หรือกลับกัน อัตราแลกเปลี่ยนระหว่างสองสกุลเงินนี้จะขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น ความสมดุลระหว่างสิ่งที่เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น อัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางทั้งสองประเทศ และสถานะเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศเอง การซื้อขาย USDJPY เป็นส่วนหนึ่งของการซื้อขายแลกเปลี่ยนที่ผู้ลงทุนและนักเศรษฐศาสตร์ต้องการเฝ้าดูเพื่อทำกำไรหรือป้องกันความเสี่ยงในตลาดการเงินโลก การเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยน USDJPY สามารถมีผลกระทบต่อราคาสินทรัพย์และธุรกิจในทั้งสองประเทศ และมักถูกนำมาเป็นตัวชี้วัดสำหรับสภาวะเศรษฐกิจโลกด้วย

ข้อมูลพื้นฐานของ USDJPY

คู่เงิน USDJPY มีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจเนื่องจากเป็นคู่เงินที่แสดงความสัมพันธ์ระหว่างสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) และเงินเยนของประเทศญี่ปุ่น (JPY) ในตลาดแลกเปลี่ยน (Forex) โดยส่วนมากไม่จำเป็นต้องอธิบายเรื่องของสกุลเงิน USD เนื่องจากเป็นสกุลเงินแข็งแกร่งที่สุดในโลก และ JPY เป็นสกุลเงินที่มีการซื้อขายมากที่สุดอยู่ในอันดับ 3 ของสกุลเงินทั่วโลก อีกทั้งยังอยู่ในอันดับที่ 4 ในรายการสกุลเงินสำรอง (หลังจากดอลลาร์สหรัฐ ยูโร และปอนด์สเตอร์ลิง).

ประวัติคู่ USDJPY เริ่มต้นในปีค.ศ. 1871 เมื่อเงินเยนมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มอุตสาหกรรมของประเทศญี่ปุ่น ประเทศญี่ปุ่นมีชื่อเสียงในด้านการพัฒนาเทคโนโลยี นวัตกรรมด้านการดูแลสุขภาพและการเกษตร นอกจากนี้ยังส่งออกชุดผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ซึ่งทำให้เงินเยนสามารถอยู่ในกลุ่มสกุลเงินหลักได้ง่าย เมื่อพูดถึงประวัติคู่ USD/JPY จะต้องกลับไปยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 หลังจากญี่ปุ่นพ่ายแพ้ในสงคราม ประเทศได้ผ่านการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและการเมืองที่สำคัญภายใต้การนำของสหรัฐอเมริกา ค่าเงินเยนถูกตรึงไว้กับเงินดอลลาร์สหรัฐในปี 1949 ทำให้เกิดระบบอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ที่เรียกว่าข้อตกลง Bretton Woods ระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบคงที่นี้คงอยู่จนถึงปี 1971 เมื่อระบบนี้ถูกยุติ.

ปัจจัยที่มีผลต่อคู่เงิน USD/JPY

ปัจจัยที่มีผลต่อคู่เงิน USD/JPY มีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อค่าแลกเปลี่ยนระหว่างดอลลาร์สหรัฐ (USD) และเงินเยนของญี่ปุ่น (JPY) อย่างละเอียดดังนี้

  1. อัตราดอกเบี้ย (Interest Rates): อัตราดอกเบี้ยคือราคาค่าเงินในระบบการเงิน ธนาคารกลางของแต่ละประเทศเป็นผู้กำหนดอัตราดอกเบี้ย อัตราดอกเบี้ยสูงกว่ามักเป็นสัญญาณให้คนลงทุนเข้ามาลงทุนในสกุลเงินของประเทศนั้น ๆ เพื่อรับดอกเบี้ยที่สูงขึ้น การเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยโดยธนาคารกลางสหรัฐ (Federal Reserve) หรือธนาคารกลางญี่ปุ่น (Bank of Japan) สามารถมีผลต่อค่าเงิน USD และ JPY และอัตราแลกเปลี่ยน USD/JPY.
  2. ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (NFP – Non-Farm Payrolls): รายงาน NFP เป็นการรายงานเกี่ยวกับการจ้างงานนอกภาคการเกษตรในสหรัฐอเมริกา รายงานนี้แสดงจำนวนงานที่สร้างขึ้นหรือสูญเสียไปในเฉพาะเดือนนั้น ๆ การเพิ่มงานและลดงานมีผลต่อความน่าเชื่อถือในการลงทุนในสหรัฐและส่งผลต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐและอัตราแลกเปลี่ยน USD/JPY. เมื่อข้อมูล NFP ออกมาสูงกว่าที่คาดการณ์ อาจเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐและ USD/JPY.
  3. ตัวเลขยอดค้าปลีก (Retail Sales): ข้อมูลยอดขายปลีกแสดงจำนวนเงินที่ผู้บริโภคใช้จ่ายในสินค้าและบริการในระดับประเทศ การเพิ่มยอดขายปลีกสามารถบ่งบอกถึงความเข้มงวดในเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาที่มีการใช้จ่ายของผู้บริโภคสูง การเปลี่ยนแปลงในยอดขายปลีกสามารถส่งผลต่อค่าเงิน USD และ JPY และอัตราแลกเปลี่ยน USD/JPY.
  4. นโยบายการเงิน (Monetary Policy): นโยบายการเงินที่ถูกกำหนดโดยธนาคารกลางสามารถมีผลต่ออัตราดอกเบี้ยและการปล่อยเงินเพิ่มเติมในระบบการเงิน นโยบายการเงินที่เพิ่มอัตราดอกเบี้ยหรือลดการปล่อยเงินสามารถส่งผลต่อค่าเงิน USD และ JPY โดยตรง การปรับนโยบายการเงินโดย Federal Reserve และ Bank of Japan มีผลต่อค่าเงิน USD และ JPY.
  5. ปัจจัยทางเศรษฐกิจ:
    • สภาวะเศรษฐกิจ (Economic Conditions): สภาวะเศรษฐกิจของแต่ละประเทศมีผลต่อค่าเงิน USD และ JPY. เศรษฐกิจที่เจริญเติบโตมักเป็นสัญญาณดีสำหรับค่าเงินของประเทศนั้น ๆ ซึ่งอาจส่งผลให้อัตราแลกเปลี่ยน USD/JPY เพิ่มขึ้น.
    • อัตราการเจริญเติบโตของ GDP (Gross Domestic Product): อัตราการเจริญเติบโตของ GDP แสดงผลต่อค่าเงิน USD และ JPY โดยตรง เศรษฐกิจที่เติบโตเร็วมักมีการเพิ่มค่าเงินของประเทศนั้น ๆ และอาจส่งผลให้ USD/JPY เพิ่มขึ้น.
    • ความเสถียรทางการเมือง (Political Stability): ความเสถียรทางการเมืองมีผลต่อค่าเงิน USD และ JPY ซึ่งส่งผลต่อ USD/JPY.
  6. ปัจจัยทางการเมือง (Political Factors): เหตุการณ์ทางการเมืองและนโยบายการเมืองที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจและนโยบายการเงินสามารถมีผลต่อคู่เงิน USD/JPY. เปลี่ยนแปลงในการนำเข้า/ส่งออกและนโยบายการค้าระหว่างประเทศอาจมีผลต่อค่าเงิน USD และ JPY.
  7. ปัจจัยที่ส่งผลในระดับโลก (Global Factors): ปัจจัยที่เกิดขึ้นในระดับโลก เช่น ภาวะเศรษฐกิจโลก การค้าระหว่างประเทศ และความผันผวนในราคาสินค้าสามารถมีผลต่อคู่เงิน USD/JPY เนื่องจากมีผลต่อการตัดสินใจการลงทุนและการซื้อขายในคู่เงินนี้ในระยะสั้นและระยะยาว.

การเทรดคู่เงิน USDJPY

การเทรดคู่เงิน USD/JPY เป็นการซื้อขายสกุลเงินระหว่างดอลลาร์สหรัฐ (USD) และ เยนญี่ปุ่น (JPY) ซึ่งเป็นหนึ่งในการเทรดในตลาด Forex ที่นิยมมาก การเทรด USD/JPY สามารถทำได้ในหลายวิธี โดยในหลักการเบื้องต้นนักเทรดสามารถทำการเทรดด้วยสัญญาซื้อขายส่วนต่าง (CFD) ซึ่งเป็นวิธีที่สะดวกและเรียบง่ายในการกำไรจากการเปลี่ยนแปลงของราคาสกุลเงินตัวเดียวกัน หลักการเทรด CFD คือการทำข้อตกลงระหว่างนักลงทุนกับโบรกเกอร์ออนไลน์ ในข้อตกลงนี้จะระบุราคาเริ่มต้นและสิ้นสุดของการซื้อขาย โดยนักเทรดจะทำกำไรหรือขาดทุนจากความแตกต่างในราคาระหว่างระหว่างระยะเวลานั้น นักเทรดมีสองวิธีหลักในการเทรดคู่เงิน USD/JPY:

  1. เข้าออเดอร์ด้วยคำสั่งซื้อ (Long): นักเทรดทำการซื้อขายเพื่อทำกำไรจากการเพิ่มขึ้นของราคา USD โดยคาดการณ์ว่า USD จะค่อนข้างจะแข็งแรงขึ้นเมื่อเทียบกับ JPY นั้นเอง
  2. เข้าออเดอร์ด้วยคำสั่งขาย (Short): นักเทรดทำการซื้อขายเพื่อทำกำไรจากการลดลงของราคา USD โดยคาดการณ์ว่า USD จะอ่อนแอลงลงเมื่อเทียบกับ JPY นั่นเอง

การเทรด USD/JPY นั้นจะขึ้นอยู่กับการวิเคราะห์และคาดการณ์ของนักเทรดเกี่ยวกับทิศทางที่ราคาสกุลเงินนี้จะเคลื่อนไหว โดยหากนักเทรดเชื่อว่าราคา USD จะเพิ่มขึ้น เขาก็จะเปิดออเดอร์ที่สั่งซื้อ (Long) แต่ถ้าเชื่อว่า USD จะลดลงเมื่อเทียบกับ JPY เขาก็จะเปิดออเดอร์ที่สั่งขาย (Short) โดยนี้หมายความว่าการเทรดนี้ความสำเร็จขึ้นอยู่กับความเข้าใจของนักเทรดในการวิเคราะห์ตลาดและการคาดการณ์ทิศทางของราคา USD/JPY ในอนาคต.

ข่าวเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องคู่เงิน USDJPY

ข่าวเศรษฐกิจมีผลต่อคู่เงิน USD/JPY ในหลายปัจจัย เนื่องจากคู่เงินนี้เป็นหนึ่งในคู่เงินที่มีความสัมพันธ์กับเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา (USD) และประเทศญี่ปุ่น (JPY) อย่างใกล้ชิด ดังนั้น ข่าวเศรษฐกิจที่สำคัญทั้งจากสหรัฐอเมริกาและประเทศญี่ปุ่นจะมีผลต่อความเคลื่อนไหวของคู่เงินนี้. นี่คือบางข้อมูลและข่าวสารที่สำคัญสำหรับการเทรดคู่เงิน USD/JPY:

  1. อัตราดอกเบี้ย: การปรับเปลี่ยนในอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (Federal Reserve) และธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น (Bank of Japan) มีผลต่อคู่เงิน USD/JPY. การเพิ่มอัตราดอกเบี้ยโดย FED อาจทำให้ USD เข้มแข็งขึ้นและส่งผลให้คู่เงิน USD/JPY ขึ้น. อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยมักมีผลส่วนตัวแต่ละครั้ง และนักลงทุนต้องเฝ้าระวังการประกาศของธนาคารกลางเพื่อประมาณความผันผวนของคู่เงิน.
  2. ข่าวการจ้างงาน: ข้อมูลเกี่ยวกับการจ้างงานและอัตราว่างงานในสหรัฐอเมริกามีผลต่อคู่เงิน USD/JPY. รายงานการจ้างงานที่เสถียรและมีการเพิ่มขึ้นสามารถทำให้ USD เข้มแข็งขึ้น. การลดงานและอัตราว่างงานสูงขึ้นอาจทำให้ JPY แข็งแกร่งขึ้น.
  3. ข่าวทางเศรษฐกิจ: ข้อมูลเกี่ยวกับการเติบโตของเศรษฐกิจในทั้งสหรัฐอเมริกาและประเทศญี่ปุ่นมีผลต่อคู่เงิน USD/JPY. การเติบโตที่แข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาอาจเสริม USD ในขณะที่ประเทศญี่ปุ่นเดินหน้าเรื่องการส่งออกและภาวะเศรษฐกิจสามารถทำให้ JPY แข็งขึ้น.
  4. สภาพเศรษฐกิจโลก: ข่าวสารเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลกและอัตราแลกเปลี่ยนอื่นๆ มีผลต่อคู่เงิน USD/JPY เนื่องจากนักลงทุนจะมองหาความมั่นคงในการลงทุนในคู่เงินนี้ในเชิงโลก.
  5. เหตุการณ์ทางการเมือง: เหตุการณ์ทางการเมืองในทั้งสหรัฐอเมริกาและประเทศญี่ปุ่นอาจมีผลต่อคู่เงิน USD/JPY โดยเฉพาะการตัดสินใจที่เกี่ยวข้องกับนโยบายการเงินและการควบคุมเงินต circulatingิดในระบบ.
  6. ข้อมูลสถานะการส่งออกและนำเข้า: ข้อมูลเกี่ยวกับสถานะการส่งออกและนำเข้าสินค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและประเทศญี่ปุ่นสามารถมีผลต่อคู่เงิน USD/JPY โดยเฉพาะเมื่อเกี่ยวข้องกับความเข้มแข็งของเศรษฐกิจแต่ละประเทศ.

ทำไมสกุลเงิน USDJPY ถึงเป็นที่นิยม

สกุลเงิน USD/JPY เป็นคู่เงินที่นิยมในตลาดอัตราแลกเปลี่ยน Forex มีหลายเหตุผลที่ทำให้คู่เงินนี้เป็นที่นิยมในวงกว้าง:

  1. อิทธิพลทางเศรษฐกิจ: สหรัฐอเมริกาและประเทศญี่ปุ่นเป็นสองในประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก คู่เงิน USD/JPY สะท้อนความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศนี้และความสัมพันธ์ในการค้าระหว่างพวกเขา นักเทรดมักติดตามตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด เช่น GDP, ข้อมูลการจ้างงาน, อัตราดอกเบี้ย, และนโยบายของธนาคารกลาง เพื่อการวิเคราะห์และการตัดสินใจในการเทรดคู่ USD/JPY.
  2. คู่เงินปลอดภัย (Safe-Haven): ทั้งดอลลาร์สหรัฐและเงินเยนของประเทศญี่ปุ่นถือเป็นสกุลเงินที่ถูกต้องว่าเป็น “ปลอดภัย” หมายความว่าในช่วงเวลาที่ตลาดมีความไม่แน่นอนหรือความตึงเครียดทางการเมือง เทรดเดอร์และนักลงทุนมักมาลงทุนในสกุลเงินนี้มากขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในสินทรัพย์อื่น ๆ.
  3. ความผันผวนและความคล่อง: คู่สกุลเงิน USD/JPY มีความผันผวนสูงและสภาพคล่องที่สูง มีปริมาณการเทรดสูงและการเคลื่อนไหวราคาที่สูงด้วย ทำให้เทรดเดอร์สามารถทำกำไรจากความต่างราคาอย่างบ่อย.
  4. โอกาส Carry Trade: ส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยระหว่างสหรัฐอเมริกาและประเทศญี่ปุ่นทำให้คู่สกุลเงิน USD/JPY เป็นที่นิยมสำหรับการทำ Carry Trade. ในยุคที่เทรดแบบ Carry Trade, เทรดเดอร์จะยืมสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ (เช่น เงินเยน) เพื่อลงทุนในสกุลเงินที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า (เช่น ดอลลาร์) โดยหวังที่จะทำกำไรจากส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยและการขยับขึ้นของค่าเงิน.
  5. การวิเคราะห์ทางเทคนิค: คู่สกุลเงิน USD/JPY มักถูกนำเสนอในการวิเคราะห์ทางเทคนิค นักวิเคราะห์ทางเทคนิคพบว่าคู่นี้มีแนวโน้มที่จะเป็นไปตามตัวบ่งชี้ทางเทคนิค รูปแบบราคาและระดับแนวรับแนวต้าน ทำให้เทรดเดอร์ที่พึ่งพาการวิเคราะห์ทางเทคนิคมักมองสู่คู่เงินนี้เป็นอีกคู่ที่น่าสนใจในการเทรด Forex.

Author

  • thaiforexsupport

    ประสบการณ์การเทรด Forex ตั้งแต่ปี 2013 เข้าตลาด Forex เลยสร้างเว็บมาเพื่อแบ่งปันข้อมูลการเทรด และเทคนิค

    View all posts