Pivot Point indicator คืออะไร ในตลาด Forex สูตร การคำนวณ วิธีวิเคราะห์

Pivot Point indicator คืออะไร ในตลาด Forex สูตรการคำนวณ
Pivot Point indicator คืออะไร ในตลาด Forex สูตรการคำนวณ

Pivot Point indicator คืออะไร

เครื่องมือ Pivot Point Indicator คือ เครื่องมือชนิดหนึ่งในการวิเคราะห์กราฟราคาหุ้น ฟิวเจอร์ส สกุลเงินดิจิทัลต่างๆ และสินทรัพย์อื่น ๆ ที่ใช้สำหรับวิเคราะห์คำนวณระดับแนวรับ และระดับแนวต้าน ตัวช่วยในการดูทิศทางการแกว่งตัวของราคาในวันถัดไปโดยใช้ราคาของวันก่อนหน้าเป็นข้อมูลเข้า โดย Pivot Point Indicator จะคำนวณโดยใช้ราคาเปิด (Open), ราคาปิด (Close), ราคาสูงสุด (High) และราคาต่ำสุด (Low) ของวันก่อนหน้า แล้วแสดงผลลัพธ์เป็นเส้นระดับรับและระดับต้านทางของราคาในวันถัดไปส่วนสูงสุดของราคาในวันก่อนหน้าจะกลายเป็นระดับต้านทาง ในขณะที่ราคาต่ำสุดจะกลายเป็นระดับรับทาง ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญในการวิเคราะห์และเทรดหุ้นในวันถัดไป

Pivot points นั้น มาจากพวก Floor trader หรือเทรดเดอร์อนุรักษ์นิยมรุ่นเก่าที่ซื้อขาย บนกระดาน (สมัยก่อนไม่มีโปรแกรมเทรด จะใช้ดูการขึ้นลงของราคาเป็นกระดาน) ในพวกสาย Day trade ก็จะดูราคา High, Low และ Close ของวันก่อนหน้ามาคำนวณ Pivot point เพื่อจุดเข้าจุดออกในวันถัดมาจากตรงนี้นอกจาก Pivot Point Indicator แบบมีคำนวณโดยใช้ราคาเปิด (Standard Pivot Point) แล้วยังมีรูปแบบอื่นๆ เช่น Fibonacci Pivot Point, Camarilla Pivot Point, Woodie Pivot Point, DeMark Pivot Point ที่ใช้วิธีคำนวณแตกต่างกันไป แต่เป็นเครื่องมือช่วยในการวิเคราะห์และเทรดหุ้นที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายด้วยเช่นกัน ช่วยในการตัดสินใจการซื้อขายและการจัดการความเสี่ยงในการลงทุนในตลาดการเงินอย่างมีระบบ.

สูตรการคำนวณ Pivot Point

สูตรการคำนวณ Pivot Point ในรูปแบบของ Standard Pivot Points คือดังนี้:

  1. คำนวณ Pivot Point (PP): Pivot Point (PP) คำนวณโดยหาค่าราคาปิด (Close) ในระยะเวลาก่อนหน้านี้แล้วนำมาบวกกับราคาสูงสุด (High) และราคาต่ำสุด (Low) ในระยะเวลาเดียวกัน แล้วหารด้วย 3: PP = (High + Low + Close) / 3
  2. คำนวณระดับราคาสนับสนุนและระดับราคาต้าน (Support and Resistance Levels):
    • ราคาสนับสนุนระดับแรก (Support 1, S1) คำนวณโดย: S1 = (2 * PP) – High
    • ราคาต้านระดับแรก (Resistance 1, R1) คำนวณโดย: R1 = (2 * PP) – Low
    • ราคาสนับสนุนระดับสอง (Support 2, S2) คำนวณโดย: S2 = PP – (High – Low)
    • ราคาต้านระดับสอง (Resistance 2, R2) คำนวณโดย: R2 = PP + (High – Low)
    • ราคาสนับสนุนระดับสาม (Support 3, S3) คำนวณโดย: S3 = Low – 2 * (High – PP)
    • ราคาต้านระดับสาม (Resistance 3, R3) คำนวณโดย: R3 = High + 2 * (PP – Low)

วิธีวิเคราะห์ Pivot Point Indicator

การวิเคราะห์ Pivot Point Indicator เป็นกระบวนการที่ใช้เครื่องมือนี้เพื่อตีความและตัดสินใจในการซื้อขายในตลาดการเงิน วิธีการวิเคราะห์ Pivot Point Indicator สามารถสรุปได้ดังนี้:

  1. รับข้อมูล Pivot Points: เริ่มต้นโดยการรับข้อมูล Pivot Points ที่คำนวณได้จาก Pivot Point Indicator สำหรับช่วงเวลาที่คุณสนใจ เช่นระดับราคา Pivot Point (PP) และระดับราคาสนับสนุนและระดับราคาต้าน (Support and Resistance Levels) ตามสูตรที่ได้กล่าวมาในคำตอบก่อนหน้านี้.
  2. แนวโน้มของตลาด: คำนวณค่า Pivot Point (PP) และดูว่าราคาปิดปัจจุบันอยู่เหนือหรือใต้ PP และอยู่ในส่วนใดของ Pivot Points ทั้งหมด (ระดับราคาสนับสนุนและระดับราคาต้าน).
    • หากราคาปิดอยู่เหนือ PP, แนวโน้มอาจชี้ไปทางขาขึ้น.
    • หากราคาปิดอยู่ใต้ PP, แนวโน้มอาจชี้ไปทางขาลง.
    • ระดับราคาสนับสนุนและระดับราคาต้านที่คำนวณด้วย Pivot Point Indicator อาจช่วยกำหนดแนวโน้มที่สำคัญ.
  3. ระดับราคาสนับสนุนและระดับราคาต้าน: พิจารณาระดับราคา Support และ Resistance ที่คำนวณจาก Pivot Point Indicator นี้ เช่น S1, S2, R1, R2, และอื่น ๆ และดูว่าราคาปิดปัจจุบันอยู่ใกล้กับระดับราคาใด หรืออาจกำหนดเป็นระดับเป้าหมายในการเข้าซื้อขายหรือออกจากตลาด.
  4. รูปแบบแท่งเทียน (Candlestick Patterns): ควรรับข้อมูลเพิ่มเติมจากแท่งเทียน (candlestick charts) เพื่อดูรูปแบบของแท่งเทียนที่สามารถช่วยในการตัดสินใจเข้าซื้อขาย รูปแบบแท่งเทียนเช่นแท่งเทียนแบบแก่งเทียน (pin bar), แท่งเทียนราคาเปิด-ปิดแบบเครื่องหมายย้วย (doji), และรูปแบบอื่น ๆ ที่มีความสัมพันธ์กับ Pivot Points อาจช่วยให้คุณตัดสินใจในการเทรดได้ดีขึ้น.
  5. ตัวชี้วัดเทคนิคเสริม: ควรพิจารณาการใช้ตัวชี้วัดเทคนิคอื่น ๆ ร่วมกับ Pivot Point Indicator เช่น Moving Averages, Relative Strength Index (RSI), หรือ Stochastic Oscillator เพื่อให้คุณได้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเสี่ยงและโอกาสในการซื้อขาย.
  6. การจัดการความเสี่ยง: จะมีการจัดการความเสี่ยงที่ดีเป็นสำคัญ เมื่อคุณตัดสินใจซื้อขาย ให้กำหนดระดับหยุดขาดทุน (stop-loss) และระดับเป้าหมายกำไร (take-profit) อย่างชัดเจนเพื่อป้องกันความเสี่ยงและรักษาการบริหารความเสี่ยงในระดับที่ยอมรับได้.

การใช้งาน Pivot Point Indicator

การใช้งาน Pivot Point เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการวิเคราะห์และเทรดในตลาดการเงิน ดังนี้:

1. การดูความแข็งแกร่ง:

  • การทะลุ Pivot Point (P): ถ้าราคาปิดปัจจุบันสามารถขึ้นผ่านระดับ Pivot Point (P) ได้, แสดงถึงความแข็งแกร่งของราคาในช่วงนั้น มีโอกาสที่จะเห็นการปรับตัวขึ้นเพื่อทดสอบระดับต้านทางแรก (R1).
  • การทะลุระดับต้านทาง (R1, R2): หากราคายังสามารถทะลุระดับต้านทาง (R1) ได้อีก ก็มีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นไปสู่ระดับต้านทางถัดไป (R2).
  • การตัดหรือลงจากระดับ Pivot Point (P): ในทางตรงกันข้าม, หากราคาอ่อนตัวลงและหลุดระดับ Pivot Point (P) ลงมา, แสดงถึงแนวโน้มที่อ่อนแอ มีโอกาสลงและทดสอบระดับสนับสนุนที่แรก (S1).
  • การทะลุระดับสนับสนุน (S1, S2): หากราคายังหลุดระดับสนับสนุน (S1) อีก, ก็มีโอกาสที่จะลงและทดสอบระดับสนับสนุนถัดไป (S2) ในอนาคต.

การดูความแข็งแกร่งของราคาผ่าน Pivot Points เป็นส่วนสำคัญในการตัดสินใจเข้าซื้อขายในตลาด.

2. การใช้ระดับ Pivot Point ในการดูแนวรับแนวต้าน:

ระดับ Pivot Points สามารถใช้เป็นแนวรับแนวต้านเช่นเดียวกับการดูระดับแนวรับแนวต้านทั่วไป คุณสามารถใช้ระดับ Pivot Points เพื่อดูที่จะมีการเปลี่ยนแปลงราคาหรือการถดถอยตามระดับเหล่านี้:

  • ราคาใกล้แนวรับ (Support): เมื่อราคาอยู่ใกล้ระดับ Support และมีสัญญาณของราคาที่เหลือความเปลี่ยนแปลงและทำนายว่าราคาอาจเด้งกลับขึ้น หรือจะหยุดถอยลง.
  • ราคาใกล้แนวต้าน (Resistance): เมื่อราคาอยู่ใกล้ระดับ Resistance และมีสัญญาณของราคาที่แสดงว่าราคาอาจชะลอหรือหยุดขึ้นตัว.

ควรระมัดระวังและดูแนวโน้มอื่น ๆ เช่นการใช้ตัวชี้วัดเทคนิคร่วมกับ Pivot Points เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตัดสินใจการเทรด.

3. Overbought/Oversold:

ระดับ Pivot Points สามารถใช้เพื่อบ่งชี้สัญญาณ Overbought และ Oversold ในแนวรับแนวต้านระดับที่ 2 (S2 / R2) เช่นเดียวกัน ถ้าราคายังคงเดินทางขึ้นมาที่ R2 อยู่นานๆ, มีโอกาสที่ราคาอาจกำลังอยู่ในสถานะ Overbought (การเหนี่ยวแนวขึ้น) และอาจมีการเปลี่ยนแปลงในระดับราคาในอนาคต.ในทางกลับกัน, ถ้าราคายังคงตกอยู่ที่ S2 อยู่นานๆ, มีโอกาสที่ราคาอาจเป็น Oversold (การเหนี่ยวแนวลง) และอาจมีการเปลี่ยนแปลงในระดับราคาในอนาคต.

การใช้ Pivot Points เพื่อติดตามสัญญาณ Overbought และ Oversold ช่วยให้คุณสามารถรับรู้เมื่อตลาดอาจอยู่ในสภาวะที่มีความแข็งแกร่งเกินไปหรืออ่อนแอเกินไปและมีโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลง. แต่ควรร่วมใช้ระบบและตัวชี้วัดเพิ่มเติมเพื่อปรับปรุงการตัดสินใจการเทรดของคุณอีกด้วย.

Author

  • thaiforexsupport

    ประสบการณ์การเทรด Forex ตั้งแต่ปี 2013 เข้าตลาด Forex เลยสร้างเว็บมาเพื่อแบ่งปันข้อมูลการเทรด และเทคนิค

    View all posts